เลือกซื้อประกันภัยรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่า

ประกันภัยรถยนต์
ไม่มีใครสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แต่ทุกครั้งที่คุณขับรถ คุณสามารถอุ่นใจได้เพราะรู้ว่าตลอดเส้นทางของการใช้รถ ทั้งชีวิต และทรัพย์สินอันมีค่าของท่านจะได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัยรถยนต์

เลือกซื้อประกันภัยรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่า
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าการที่หลาย ๆ คน ตกลงเอาเงินมาลงขันเพื่อแชร์ความเสี่ยงร่วมกันโดยมีบริษัทประกันภัยเป็นโต้โผในการรวมเงินรวมทั้งการกำหนดเงื่อนไขต่างๆในการเรียกเก็บเงินหรือที่เราเรียกว่าเบี้ยประกันภัย
ทำไมเบี้ยประกันรถยนต์ถึงถูก-แพงไม่เท่ากัน แบ่งได้ 2 เหตุผลดังนี้
1.       ประเภทของรถ รุ่น ยี่ห้อ ปีรถ มูลค่าตัวรถและอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมนอกเหนือที่ติดตั้งจากศูนย์บริการ มีผลต่ออัตราค่าเบี้ยประกันภัยในการรับประกันที่แตกต่างกัน และเป็นที่แน่นอนว่ารถที่ซ่อมยาก อะไหล่แพง มีระบบที่ซับซ้อน และเป็นรุ่นที่ฮิตในหมู่นักโจรกรรมด้วยแล้วรับรองได้เลยว่าค่าเบี้ยประกันก็จะต้องสูงตามไปด้วย

2.       ความคุ้มครองตามกรมธรรม ปัจจัยสำคัญที่มีผลทำให้เบี้ยประกันถูกหรือแพง เช่น ประกันภัยชั้น 1 ประกันภัยชั้น 2 ประกันภัย 2 พลัส ประกันภัยชั้น3 ประกันภัย 3 พลัส  ซึ่งก็แล้วแต่เจ้าของรถจะสมัครใจเลือกทำตัวไหน ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่ายิ่งเบี้ยถูกความคุ้มครองก็ย่อมน้อยกว่าประกันที่เบี้ยแพงกว่า ทั้งนี้เจ้าของรถอาจต้องพิจารณาถึงความจำเป็นว่ารถของตนเองนั้นเหมาะกับประกันประเภทไหน

                ซึ่งในตลาดมีหลายบริษัทประกันภัยออกข้อเสนอการรับประกันประเภทต่างๆเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค (ผู้ใช้รถ) ประเภทขับน้อยจ่ายน้อยสำหรับ ผู้ที่มั่นใจว่าตนเองใช้รถน้อย  แน่นอนคุณเองก็อยากประหยัดเงินในกระเป๋าก็อาจจะขอทำประกันภัยประเภทนี้   แต่สำหรับกลุ่มผู้บริโภคบางอาชีพเช่น ผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ประกันประเภทนี้คงจะไม่เหมาะนัก  ซึ่งการแข่งขันในตลาดปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยหลายเจ้าแข่งขันในเรื่องราคากันอยู่หลายบริษัท ตัวอย่างเช่น   ประกันภัยประเภทเดียวกันอาจจะมีราคาที่แตกต่างกันในแต่ละบริษัทที่สำคัญสิ่งที่เจ้าของรถต้องให้ความสำคัญมากกว่าราคา  คือ ความคุ้มครองและความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อบริการหลังการขายอีกด้วย

อ้างอิงรูปจาก www.google.com

น.ส รติยา ทีตารักษ์   5621403053
Previous
Next Post »